“สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี เปิดตัว “น้าเทิด” เทิดศักดิ์ ใจมั่น อดีตกองกลางทีมชาติไทย เป็นผู้ช่วยโค้ชของจเด็จ มาดามแป้งเชื่อว่าช่วยทีมให้แกร่งขึ้นได้แน่นอน “การดึง โค้ชเทิดศักดิ์ หรือที่หลายคนรู้จักกันว่า น้าเทิด มาร่วมงานที่ การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งเฮดโค้ชใหญ่อย่างจเด็จ กับโค้ชเทิดศักดิ์ เคยร่วมงานกันมาก่อน ส่วนตัวแป้งมองว่า การมาของโค้ชเทิดจะมาช่วยเติมเต็ม และพัฒนาทีมให้ต่อเนื่องและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น นอกจากนี้แป้งเชื่อว่า โค้ชเทิดจะสามารถทำงานปรับตัวเข้ากับระบบและนโยบายการทำงานแบบเป็นทีมเวิร์ค เพื่อภารกิจไทยลีกได้อย่างแน่นอน” มาดามแป้งกล่าว...

“บิ๊กโจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มองว่า การที่ ไทยลีกมีโปรแกรมการแข่งขันชนกับบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษนั้น น่าจะเป็นเรื่องที่ดี ทำให้แฟนบอลไทยและบอลเทศได้รับชมฟุตบอลได้อย่างต่อเนื่อง “ส่วนการถ่ายอดสอดฟุตบอลไทยลีก หลังจากที่ทรูวิชั่นส์ จะรับถ่ายทอดถึง 25 ต.ค. นี้เท่านั้น ต้องให้เวลา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคม เพื่อหาผู้สนับสนุนรายอื่น มาสนับสนุนบอลไทยลีกต่อไปให้ได้ ซึ่งแนวทางอาจจะเป็นไปได้ทั้งเอกชนและภาครัฐบาล แต่ก็ยอมรับว่าถ้าเอกชนอาจจะไม่ง่าย เพราะบริษัทเอกชนจะก็ต้องไปคำนวณตัวเลขด้านการตลาดเพื่อให้ได้กำไร ส่วนทางดานรัฐบาลนั้น ทางสมาคมจะต้องมาคิดว่าหากขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล มีตัวเลขขั้นต่ำในการดำเนินการเท่าไหร่ จึงจะให้ฟุตบอลอาชีพไทยลีกแข่งจนจบฤดูกาลได้” บิ๊กโจ กล่าว...

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข่าวลือที่ เลสเตอร์ ซิตี้ จะทำการซื้อตัวนักเตะทีมชาติไทยเข้าสู่ทีม “เรามองตั้งแต่วันแรกที่เราซื้อทีม และมองว่ามีนักเตะคนไหนที่มีความสามารถมากที่สุดในประเทศไทยเราก็จะทำ เรื่องนี้ผมไม่เคยหยุดคิด แต่ว่ามันต้องหาคนที่เก่งจริงๆ ซึ่งถามว่าตอนนี้มีหรือยัง คงต้องคอยช่วยๆกันหาแล้วก็ดูกันไป ถ้ามันมีขึ้นมาและประสบความสำเร็จเราก็พร้อมแน่นอน เราก็มองหาทั่วโลก เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ที่เราเจอคนๆนั้น เราคงจะเป็นทีมแรกๆที่เราเข้าไปหา ไม่ว่าจะเป็นน้องคนไหนก็แล้วแต่ เลสเตอร์ ซิตี้จะไปนำตัวนักเตะคนนั้นเข้ามาสู่ทีมให้ได้อย่างแน่นอน” ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าว...

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ได้รับข่าวดี เมื่อสองผู้เล่นคนสำคัญของทีม เตรียมบินเข้าไทยในเร็ววันนี้ นั้นคือ ฟิลิป โรลเลอร์ แบ็คขวากัปตันทีม และ โย ซัง แฮ กองหลังชาวเกาหลีใต้เตรียมบินเข้าประเทศไทยในเร็ววันนี้ เพื่อเตรียมกลับมาซ้อมช่วยทีมลุยศึกไทยลีก 2020 โดยกำหนดการคือ ฟิลิป โรลเลอร์ ได้ไฟลท์บินกลับจากเยอรมัน วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ส่วน โย ซัง แฮ เตรียมกลับจากเกาหลีใต้ถึงไทย วันที่ 25 กรกฎาคม 2563 และ จะแยกกักตัว 14 วันทันที ตามมาตรการของรัฐบาล ก่อนจะมาร่วมซ้อมกับทีมราชันมังกรต่อไป...

ทรูวิชั่นส์จะถ่ายทอดสดไทยลีก ไม่เกิน 25 ต.ค.แน่นอน เผยได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน และจ่ายต่อไม่ไหว แต่ยินดีเป็นพาร์ทเนอร์กับฟุตบอลไทย อาจร่วมมือช่องทางอื่น นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ยืนยันว่าทรูวิชั่นส์ ยืนยันถ่ายทอดสด ได้ถึง 25 ต.ค.นี้ เท่านั้น ตามระยะเวลาสัญญาเดิม และได้เสนอมูลค่าสิทธิประโยชน์ ที่จะจ่ายตอบแทนแก่สมาคมไปแล้ว โดยคิดเป็นจำนวนคู่ ไม่ว่าสมาคมจะจัดกี่คู่ จนถึงวันที่ 25 ต.ค.ก็ตาม และหลังจากวันที่ 25 ต.ค. ก็จะไม่สามารถถ่าย หรือจ่ายค่าสิทธิประโยชน์ได้ เพราะไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายไหว เนื่องจาก ทรูวิชั่นส์ ก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจ อันเนื่องจากโควิด-19 ที่ผ่านมา โรงแรมกว่าครึ่ง ยกเลิกเป็นสมาชิก เพราะต้องปิดลง รวมทั้งไม่มีนักท่องเที่ยว ทำให้ได้ผลกระทบเช่นกัน...

ตามที่รัฐบาล มีโครงการกระตุ้นความเชื่อมั่น ที่ จ.ระยอง หลังจากพบทหารชาวอียิปต์ ติดเชื้อโควิด-19 เข้าไปในจังหวัด ซึ่งหนึ่งในโครงการนี้ก็ คือการจัดฟุตบอลรายการพิเศษ ในวันที่ 1 ส.ค. 63 ที่สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง มี 2 คู่ คู่แรก ทีมรวมดารา พบ ทีม VVIP คณะรัฐมนตรี จากนั้นคู่ที่ 2 การพบกันของ 2 ทีมไทยลีก “ม้านิลมังกร” ระยอง เอฟซี พบ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ทั้ง 2 คู่จัดการแข่งขันกันแบบมีผู้ชม ภายใต้เงื่อนไขการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย หลังจากเกมนี้ จะมีโอกาสนำไปสู่การจัดไทยลีกในอนาคตหากสามารถทำได้ “ส่วนตัวแล้วยังไม่อยากคิดไปไกล อยากให้เกิดขึ้นจริงๆ ก่อน แน่นอนว่าถ้าสามารถจัดการแข่งขันแบบเปิดที่ระยองได้จริงๆ...

“บิ๊กโจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฬาฟุตบอล ยืนยันว่าสมาคมกีฬาฟุตบอล และ บ.ไทยลีก สามารถวางโปรแกรมไทยลีก อีก 26 นัดที่เหลือให้เตะจบภายในปีนี้ได้อย่างแน่นอน แต่ต้องรอมติจากสโมสรตัดสินใจร่วมกัน 24 ก.ค. นี้ก่อน “ในการประชุมที่จะมาถึงจะมีเรื่องของบทสรุปยอดเงินค่าลิขสิทธิ์หากว่ามติที่ประชุมตกลงแข่งให้จบภายในปีนี้ว่าจะเป็นอย่างไร ก็จะมีการพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียก่อนตัดสินใจร่วมกัน” บิ๊กโจ กล่าว...

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล ยืนยันว่าไม่ทอดทิ้งฟุตบอล ออมสิน เนชั่นแนลลีก (ไทยลีก 3) และจะพยายามให้ถึงที่สุด เพื่อให้สามารถกลับมาเตะได้โดยเร็วที่สุด “จากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุกๆ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีความจำเป็นต้องปรับตัวให้สามารถดำเนินงานภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพื่อไม่ให้การพัฒนาฟุตบอลของชาติขาดความต่อเนื่อง ผมและทีมงานได้มีการประสานงานภาคส่วนต่างๆ ที่จะเข้ามาช่วยกันประคับประคองไทยลีก 3 ให้สามารถจัดการแข่งขันให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานเอกชนที่เห็นความสำคัญและเข้าใจถึงความจำเป็นเร่งด่วน เพราะเข้าใจดีว่าไทยลีก 3 เป็นอีกฟันเฟืองที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยที่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค” “สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ขอยืนยันว่าจะไม่ทิ้งไทยลีก 3และจะพยายามอย่างถึงที่สุด เพื่อให้การแข่งขันสามารถดำเนินการได้ และเชื่อว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงภาคเอกชน จะเห็นถึงความสำคัญของฟุตบอลไทยลีก 3 และยื่นมือเข้ามาช่วยให้พวกเราผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ทั้งนี้เมื่อได้ข้อสรุปในประเด็นสำคัญๆ ที่ชัดเจนจะมีการเชิญประชุมเพื่อชี้แจงและหารือโดยเร็วที่สุด” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว...

ล่าสุดมีกระแสข่าวออกมาว่า การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 1 และ ไทยลีก 3 จะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ เบื้องต้นได้วางกำหนดการเอาไว้ 3 วัน คือวันที่ 12 สิงหาคม 2563, 15 สิงหาคม 2563 และ 21 สิงหาคม 2563 โดยจะแข่ง 3 วัน ต่อ 1 นัด และจะมีช่วงที่พักเบรกโปรแกรมให้กับฟีฟ่าเดย์ส่วนไทยลีก 2 อาจจะไม่ต้องหยุดพักเบรกฟีฟ่าเดย์ เนื่องจากมีจำนวนทีมที่มากกว่าลีกอื่น ทำให้ระยะเวลาการแข่งขันนานกว่า สำหรับส่วนฟุตบอลถ้วยในประเทศทั้ง เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะยกเลิกหรือไม่...

“โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือของทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทีมในไทยลีก ให้ความคิดเห็นส่วนตัวผ่านสื่อว่า ไทยลีก ฤดูกาลนี้ควรจะจบภายในสิ้นปีนี้ เพื่อช่วยให้ทีมเล็กมีสภาพคล่องทางการเงินและอยู่รอดต่อไป “ในมุมมองของเราอยากให้ ไทยลีก เตะจบก่อน พ.ค. 64 อยากให้จบในเดือน ธ.ค. 63 จากสถานการณ์ทั้งไวรัสโควิด และเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เรายังไม่รู้ว่าแต่ละสโมสรจะได้เงินอย่างไร ซึ่งถ้าฟุตบอลลีกเตะจบปลายปีนี้ จะเป็นการดีต่อทุกๆสโมสร ทั้งเรื่องสัญญานักเตะด้วย ส่วนเรื่องถ้าเตะแบบถี่ๆ แล้วมีผู้เล่นบาดเจ็บ ในมุมมองของผมมีวิธีแก้ไขคือ เพิ่มเปลี่ยนตัวเป็น 5 คน หรือว่าเพิ่มการลงทะเบียนนักเตะจาก 35 เป็น 45 คนก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีในตอนนี้ ผมคิดว่าหากเปลี่ยนเวลาแข่งขันแบบเตะข้ามปี ไปเป็นปี 2021-22 น่าจะดีกว่า อยากให้ฤดูกาลนี้จบในปีนี้ แล้วค่อยไปรับช่วงเวลากันใหม่ในสถานการณ์ที่ปกติแล้ว ผมคิดว่าที่ว่ามาทั้งหมดน่าจะช่วยให้ทีมเล็กๆ อยู่รอดต่อไปได้ครับ” โค้ชโจ กล่าว...