เมืองทองสวนกลับเอเยนต์โพสต์เท็จ-เตรียมยื่นฟีฟ่าวันลัมยกเลิกสัญญาผิดกฎ
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แถลงการณ์ถึงสื่อมวลชนและแฟนบอลถึงกรณีการหายตัวของนายประตู ดัง วัน ลัม เป็นครั้งแรก หลังมีข่าวจากทางเอเยนต์ระบุถึงการยกเลิกสัญญาระหว่างกัน และได้เตรียมทำการฟ้อง อังเดรย์ กรูชิน ผู้จัดการส่วนตัวของนายทวารวัย 27 ปี ที่โพสต์ข้อความเท็จระบุว่าสโมสรละเมิดข้อตกลงเรื่องเงิน ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด อีกทั้งการทำให้สโมสรเกิดความเสียหาย ยื่นเรื่องต่อสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ ฟีฟ่า
รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้เราพยายามให้ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ หลังนักเตะที่ไม่มีความสุขที่ไปนั่งเป็นตัวสำรองของ สมพร ยศ เขา (วัน ลัม) จากการโรเตชั่นของทีม จึงขอทางโค้ชที่จะไม่นั่งข้างสนาม ทางเราก็ให้โอกาสตัวนักเตะอยู่ รวมถึงการมองหาสโมสรใหม่ให้เจ้าตัวด้วย ซึ่งตัวแทนของเราที่ญี่ปุ่นก็ได้ติดต่อทีมใน เจลีก ในเบื้องต้นแล้วเช่นกัน ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้”
“แต่กรณีที่เอเยนต์ อังเดรย์ กรูชิน ออกมาบอกว่าได้มีการยกเลิกสัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง มีแต่การพยายามที่ยกเลิกสัญญาผ่านทางการส่งอีเมล 2 ครั้งเท่านั้น ที่อ้างถึงที่สโมสรผิดนัดเรื่องการเงิน”
“สโมสรขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีพลาดการจ่ายเงินเดือนใครเลยตลอดนับจากสถานการณ์โควิด-19 ในเดือน กุมภาพันธ์ 2020 เป็นต้นมา การประชุมกับสมาคมฟุตบอลฯ กับทุกสโมสรก็มีบันทึกไว้ให้เจรจาและดำเนินการลดเงินเดือนได้ด้วยซ้ำ ระหว่างตัวเลข 30-50% และอยู่ภายใต้คำแนะนำของ ฟีฟ่า ด้วยว่าสามารถทำได้”
“แต่ทาง เมืองทอง เลือกขอพักชำระไว้ 30% ในแต่ละเดือนเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อตัวนักกีฬาและครอบครัวไปมากกว่านี้ ซึ่งข้อตกลงกับนักกีฬาทุกคนของสโมสรหลังจากนั้นก็คือจะกลับมาจ่ายเงินเดือนเต็มตามปกติ และจ่ายคืนส่วนที่พักไว้ในเดือน มกราคม นี้ ดังนั้นการที่เอเยนต์ออกมาพูดว่าทางสโมสรค้างเงินเดือน 2 เดือน แล้วผิดกฏฟีฟ่า สามารถยกเลิกสัญญาได้เลยนั้น ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น และเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิงที่จะสามารถยกเลิกสัญญาของดังวันลัมด้วยวิธีนั้นได้”
“เป็นเพียงเจตนาของเอเย่นต์แต่ผู้เดียวที่จะฉกฉวยโอกาศในการเจรจาโอนย้ายไปยังสโมสรอื่นเองเสียมากกว่า”
“ที่จริงแล้วเราให้โอกาส ดัง วัน ลัม แล้ว ทางสโมสรได้ทำการเตือนไปแล้วว่าให้นำ วัน ลัม กลับมาซ้อมต่อกับทีมและเจรจาถึงเงื่อนไขการย้ายออกได้เลย เพราะนึกถึงการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีตลอดเวลา 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ตั้งแต่เราซื้อตัวมาจาก ไฮฟง ซิตี้ ที่ดำเนินการติดต่อตรงกับทางประธานสโมสรที่เวียตนาม”
“ทว่าที่สุดเอเยนต์รายนี้กลับเลือกที่จะเพิกเฉยและเดินหน้าที่จะออกจากสัญญาให้ได้ แต่ถึงตอนนี้นั้นถือว่าสโมสรได้ให้เวลาเพียงพอแล้ว ดังนั้นเราจะต้องดำเนินการทางกฎหมายทุกช่องทาง โดยการรายงานไปยังสมาคมฟุตบอลฯ และ ฟีฟ่า เกี่ยวกับการทำงานของเอเยนต์ที่อาจจะไม่มีไลเซนส์ และใบอนุญาติทำงานที่ประเทศไทยในการทำผิดกฏของสมาคมฟุตบอลและ ฟีฟ่า อย่างรุนแรง มีบทลงโทษอย่างหนัก ทั้งปรับทั้งแบนต่อตัวนักเตะและเอเยนต์ที่เกี่ยวข้อง” นายรณฤทธิ์ กล่าวปิดท้ายถึงกรณีนี้